วิธีการรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ
ข้อแนะนำการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพของคนไทย (Food Based
Dietary Guildlines) 9 ข้อ ดังนี้
1.
กินอาหารครบ 5 หมู่
แต่ละหมู่ให้หลากหลาย และหมั่นดูแลน้ำหนักตัว
.jpg)
หรือหากพบว่าน้ำหนักตัวลดลงเรื่อยๆ ก็ควรต้องให้ความสนใจพร้อมทั้งสังเกตว่ามีการอ่อนเพลีย
ง่วง ซึม หรืออาการที่แตกต่างไปจากปกติเกิดขึ้นด้วยหรือไม่
ถ้ามีอาการมากควรพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพ
สำหรับเด็ก ร่างกายมีการเจริญเติบโต น้ำหนักตัวควรเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ในอัตราที่เหมาะสม ดังนั้น
ควรหมั่นชั่งน้ำหนักตัวอย่างน้อยเดือนละครั้ง
เพื่อเป็นการรักษาเอกลักษณ์ของคนไทย
จึงให้ความสำคัญกับการกินข้าวเป็นอาหารหลัก ถ้าเป็นไปได้ ควรกินข้าวซ้อมมือ เพราะมีวิตามิน
แร่ธาตุ โปรตีนและใยอาหารมากกว่าข้าวที่ขัดสีจนขาว
ส่วนอาหารแป้ง เช่น ขนมปัง ก๋วยเตี๋ยว ขนมจีน
ให้กินเป็นบางมื้อ
อาหารแป้งเป็นอาหารที่ผ่าน-การแปรรูป ใยอาหารจะมีน้อยกว่าในข้าว
3.
กินพืชผักให้มาก และกินผลไม้เป็นประจำ
.jpg)
เนื่องจากประเทศไทยมีพืชผักและผลไม้อุดมสมบูรณ์ที่ผู้บริโภคสามารถเลือกบริโภคได้ตลอดปี
พืชผักและผลไม้ให้สารอาหารที่สำคัญหลายชนิด
คือ วิตามิน แร่ธาตุ และใยอาหาร และให้สารอื่นที่มิใช่สารอาหาร เช่น
สารแอนติออกซิแดนท์ที่ช่วยไม่ให้อนุมูลอิสระทำลายเนื้อเยื่อและผนังเซลล์ ช่วยชะลอการเสื่อมสลายของเซลล์ ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ดูสดใส
ไม่แก่เกินวัย
นอกจากนี้ยังให้ประโยชน์ทางด้านสมุนไพรที่ช่วยรักษาสุขภาพ
4.
กินปลา เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ไข่ และถั่วเมล็ดแห้งเป็นประจำ
เป็นการกินอาหารที่ให้โปรตีน โดยเน้นปลาและอาหารประเภทถั่วเมล็ดแห้ง เช่น
เต้าหู้ชนิดต่างๆ
สำหรับเนื้อสัตว์ให้เลือกที่ไม่ติดมัน หรือที่มีมันน้อย
ไข่เป็นอาหารที่มีประโยชน์ ควรกินเป็นประจำ เด็กควรกินวันละฟอง ผู้ใหญ่ภาวะปกติควรกินวันเว้นวัน หรือสัปดาห์ละ
2-3 ฟอง ส่วนคนที่มีปัญหาภาวะโคเลสเตอรอลสูงในเลือดควรลดปริมาณลง
5.
ดื่มนมให้เหมาะสมตามวัย
.jpg)
ในกรณีที่ห่วงว่าคื่มนมมากๆ อาจทำให้อ้วน
ผู้บริโภคสามารถเลือกดื่มนมพร่องไขมันได้
และในเวลาเดียวกันควรควบคุมปริมาณไขมันในอาหารชนิดอื่นด้วย
เพราะเพียงไขมันจากน้ำนมอย่างเดียวไม่น่าที่จะทำให้เกิดโรคอ้วน
ปริมาณที่แนะนำคือ เด็กควรดื่มวันละ 1-2
แก้ว ผู้ใหญ่และผู้สูงอายุควรดื่มวันละ 1
แก้ว
6.
กินอาหารที่มีไขมันแต่พอควร
.jpg)
เพียงแต่จะต้องควบคุมปริมาณและชนิดของไขมันที่จะบริโภคให้เหมาะสม ลดอาหารที่มีไขมันมาก เช่น หมูสามชั้น
ขาหมูพะโล้
และอาหารที่ใช้น้ำมันหรือกะทิจำนวนมากในการประกอบอาหาร
7.
หลีกเลี่ยงการกินอาหารรสหวานจัดและเค็มจัด
ส่วนประกอบสำคัญของอาหารรสหวานจัดและเค็มจัด ได้แก่
น้ำตาล และเกลือแกง
ซึ่งส่วนประกอบทั้ง 2 ชนิดเมื่อบริโภคมากเกินไป
พบว่าเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดโรคอ้วน
และโรคความดันโลหิตสูง
วิธีปฏิบัตินอกจากการหลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสหวานจัดและเค็มจัดแล้ว ผู้บริโภคควรพยายามรับประทานอาหารที่มีรสธรรมดา
ไม่ควรที่จะต้องเติมน้ำตาลหรือเกลือเพิ่มเติมในอาหารที่ปรุงแล้ว
หรือหันมากินอาหารแบบไทยเดิม ที่มีกับข้าวหลายชนิดเพื่อให้เกิดรสชาติที่หลากหลาย
8.
กินอาหารที่สะอาดปราศจากการปนเปื้อน
การกินอาหารที่สะอาดนับเป็นเรื่องสำคัญ
เพราะจะช่วยลดอันตรายจากสิ่งปนเปื้อนต่างๆ ซึ่งอาจเป็นเชื้อโรค พยาธิ สารพิษ
สิ่งแปลกปลอมต่างๆ ผู้บริโภคควรเลือกซื้ออาหารจากแหล่งผลิตที่เชื่อถือได้
มีการผลิตที่ถูกต้อง มีการเก็บรักษาที่เหมาะสม
อาหารสำเร็จรูปควรบรรจุในภาชนะที่เหมาะสม สะอาด มีฉลากที่ถูกต้อง
บอกวันหมดอายุ ส่วนประกอบ ชื่ออาหาร สถานที่ผลิต
นอกจากนี้ผู้บริโภคควรมีสุขนิสัยที่ดีในการรับประทานอาหาร
เช่น การล้างมือก่อนรับประทานอาหาร การใช้ช้อนกลาง
หรือใช้อุปกรณ์หยิบจับอาหารมากกว่าการใช้มือ
9. งดหรือลดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
เมื่อดื่มมาก
จะมีผลทำให้การทำงานของระบบสมองและประสาทช้าลง
ทำให้เกิดการขาดสติได้ง่าย
ที่จะนำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุ
เสียทรัพย์ เสียสุขภาพ
ก่อให้เกิดโรคตับแข็งและการขาดสารอาหารที่สำคัญหลายชนิด
ดังนั้นควรลดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือควรหลีกเลี่ยงให้มากที่สุด
ข้อแนะนำการบริโภคอาหารสำหรับคนไทยทั้ง 9
ข้อดังกล่าวข้างต้น เป็นประโยชน์สำหรับผู้บริโภคชาวไทยทุกคน เป็นการให้คำแนะนำในทางปฏิบัติได้ชัดเจนขึ้น
และมีความยืดหยุ่นในตัว ที่แต่ละคนสามารถปรับให้เหมาะสมกับตนเองได้ เพื่อสุขภาพที่ดีถ้วน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น